2417_การบริหารการซ่อมบำรุง

April 26, 2018 | Author: Anonymous | Category: Documents
Report this link


Description

บทที่ ๑ ความมุ่งหมายและหลักการซ่ อมบํารุ ง ๑. กล่ าวทั่วไป กิจการซ่อมบํารุง (Maintenance) เป็ นกิจการที่มีความสําคัญยิ่งสาขาหนึงของการส่งกําลังบํารุง ่ (Logistics) อันมีสวนสนับสนุนให้ ภารกิจของกองทัพอากาศ สามารถดําเนินการได้ สําเร็ จลุลวงไปด้ วยดีทงใน ่ ่ ั้ ยามปกติและยามสงคราม กล่าวคือ กิจการซ่อมบํารุง คือการดําเนินการทังปวงให้ อาวุธยุทโธปกรณ์ของ ้ กองทัพอากาศ สามารถใช้ งานได้ สมบูรณ์ ถูกต้ องตามหน้ าที่ที่กําหนดไว้ มีความปลอดภัยในการใช้ งาน เชื่อถือ ได้ คงอยูในสภาพเรี ยบร้ อย ณ สถานที่และเวลาที่ต้องการ ่ ปั จจุบน เครื่ องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ อื่น ๆ ตลอดจนเครื่ องมือเครื่ องใช้ ตาง ๆ แทบทุกชนิด ได้ ั ่ พัฒนาขึ ้นด้ วยเทคนิคและวิธีการสมัยใหม่ มีความยุงยากสลับซับซ้ อนมากขึ ้น ตังแต่ การสร้ าง การใช้ งาน และ ่ ้ การบํารุงรักษา ฉะนัน เจ้ าหน้ าที่ซอมบํารุงจะต้ องเป็ นผู้ที่มีความรู้ความชํานาญในกิจการซ่อมบํารุงเครื่ องบิน ้ ่ อาวุธยุทโธปกรณ์ และเครื่ องมือ เครื่ องใช้ ตาง ๆ เป็ นอย่างดี และระบบการซ่อมบํารุงก็จะต้ องพิจารณาจัดให้ มี ่ ความเหมาะสมและสอดคล้ องกับชนิดและการใช้ งานของบริภณฑ์นน ๆ ด้ วย ั ั้ ๒. คําจํากัดความและความมุ่งหมายที่เกี่ยวกับการซ่ อมบํารุ ง ๒.๑ การซ่อมบํารุง คือ การดําเนินงานทังปวงเพื่อให้ มนใจได้ วา อาวุธยุทโธปกรณ์บริภณฑ์ทกชนิด ้ ั่ ่ ั ุ สามารถนําไปใช้ งานได้ ด้วยความปลอดภัย คงสภาพที่จะใช้ ปฏิบตหน้ าที่ได้ ครบถ้ วนสมบูรณ์ การดําเนินการ ัิ ดังกล่าว ได้ แก่ การดําเนินการอย่างใดอย่างหนึง หรื อ หลายอย่างรวมกัน ซึงได้ แก่การบริ การ (Servicing) การ ่ ่ ตรวจ (Inspection) การซ่อม (Repair) การปรับปรุงสภาพ (Recondition หรื อ Overhaul) การดัดแปลงแก้ ไข หรื อการตัดแปร (Modification) ตลอดจนการทดสอบ (Testing) การปรับแต่ง (Adjusting) เพื่อให้ ได้ สมรรถนะ ตามเกณฑ์การใช้ งานที่กําหนดไว้ ๒.๒ การปองกัน (Preventive Maintenance) คือ การตรวจสภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ และ / หรื อ ้ บริภณฑ์ ก่อนการใช้ งาน ขณะใช้ งาน และเมื่อเสร็จสิ ้นการใช้ งานแล้ ว ตลอดจนการระมัดระวังในการใช้ อาวุธ ั ยุทโธปกรณ์ และบริ ภณฑ์นน ๆ ให้ อยูในเกณฑ์การใช้ งานที่กําหนดไว้ การดําเนินการในลักษณะนี ้ เป็ นการ ั ั้ ่ ปฏิบตการบูรณะรักษาในขันปองกันหรื อการปรนนิบตบํารุง ัิ ้ ้ ัิ ๒.๓ การแก้ ไข (Corrective Maintenance) คือ การแก้ ไขข้ อบกพร่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ ้นหลังจากการใช้ งานของอาวุธยุทโธปกรณ์ ทัง้ ๆ ที่เราได้ มีการปองกันตามกฎเกณฑ์และวิธีดงกล่าวแล้ ว ในข้ อ ๒.๒ เป็ นอย่างดี ้ ั แล้ วก็ตาม ข้ อขัดข้ องหรื อข้ อบกพร่องต่าง ๆ ก็อาจเกิดขึ ้นได้ จากการใช้ งานอีกเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามถ้ าเรา มีการปองกันมากการแก้ ไขก็มีสวนลดน้ อยลงไป ถ้ าเรามีการปองกันน้ อย เราก็ต้องมีการแก้ ไขมากขึ ้น ้ ่ ้ ๒.๔ การปรับปรุงให้ คืนสภาพ (Restorative Maintenance) คือ การปรนนิบตบํารุงอาวุธยุทโธปกรณ์ ัิ ต่าง ๆ ที่เราใช้ งานจนมีสภาพเสื่อมโทรมและประสิทธิภาพการทํางานลดลง จนอาจไม่ปลอดภัยในการที่จะ นํามาใช้ งานได้ อีกต่อไป ทัง้ ๆ ที่เราได้ มีการระมัดระวังปองกัน และได้ ทําการแก้ ไขอย่างดีมาแล้ ว ให้ กลับคืน ้ สภาพเป็ นของใหม่สามารถนําไปใช้ งานได้ ประสิทธิภาพดีเช่นเดิม ๒.๕ การถอดสับเปลี่ยนชิ ้นส่วน (Cannibalization) คือ การถอดสับเปลี่ยนชิ ้นส่วนที่ยงคงมีสภาพใช้ งานได้ จากบริภณฑ์อนหนึง ั ั ั ่ ๓. ความมุ่งหมายในการซ่ อมบํารุ ง (Maintenance Objectives) การซ่อมบํารุงในกิจการทหาร หน่วยซ่อมบํารุงทุกหน่วยต้ องมีจดมุงหมายในการซ่อมบํารุงที่จะให้ เกิด ุ ่ ความพร้ อมรบของอาวุธยุทโธปกรณ์และบริ ภณฑ์ตาง ๆ ที่รับผิดชอบสําหรับ ทอ. ต้ องการให้ อากาศยาน ั ่ สามารถทําการบินและปฏิบตภารกิจได้ ตามแผนที่วางไว้ ลวงหน้ า หรื ออย่างน้ อยต้ องการให้ การปฏิบตผิดไป ัิ ่ ัิ จากแผนน้ อยที่สด และให้ มีความสอดคล้ องระหว่างสายงานทางเทคนิคกับผู้ปฏิบตงานซ่อมบํารุงด้ วย ทังนี ้ ุ ัิ ้ เพื่อที่จะสนองความต้ องการทางยุทธการให้ ได้ นนเอง ั่ ๔. หลักการซ่ อมบํารุ ง (Principle of Maintenance) ภารกิจของการซ่อมบํารุงจะสําเร็จผลได้ ดี จําเป็ นจ้ องเป็ นไปตามหลักการขันต้ น ๔ ประการ คือ ความ ้ อ่อนตัว ความคล่องตัว ความประหยัด และการควบคุม หลักเหล่านี ้ผู้บงคับบัญชาหรื อฝ่ ายอํานวยการใช้ เป็ น ั เครื่ องวัดและวิเคราะห์งานซ่อมบํารุงเพื่อดูวาจะสามารถปฏิบตภารกิจได้ หรื อไม่ ่ ัิ ๔.๑ ความอ่อนตัว (Flexibility) เนื่องจากกําลังทางอากาศเป็ นกําลังรบที่ต้องการให้ มีความอ่อนตัวและ คล่องตัวในการปฏิบติ ฉะนัน การซ่อมบํารุงจึงจําเป็ นต้ องจัดให้ มีความอ่อนตัวให้ เข้ ากับภารกิจที่ต้องการ เช่น ั ้ กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงการซ่อมบํารุงจากอากาศยานแบบหนึงไปอีกแบบหนึง หน่วยรับผิดชอบซ่อมบํารุงก็ ่ ่ สามารถปฏิบตได้ ความอ่อนตัวนี ้ หมายถึง ความสามารถที่จะปฏิบตงานได้ หลายอย่างมีขีดความสามารถ ัิ ัิ กว้ างขวางและมีความสามารถที่จะรับงานตามที่จะกําหนดนี ้ได้ ซึงตามปกติระดับความสามารถของคน ่ เครื่ องมือ เครื่องใช้ จะเป็ นข้ อจํากัดในเรื่ องนี ้ ยิ่งกว่านันหน่วยซ่อมบํารุงจะต้ องสามารถปฏิบตงานตามหน้ าที่ใน ้ ัิ ยามปกติให้ ได้ ผลดีแล้ ว ยังต้ องมีความอ่อนตัว พร้ อมที่จะสามารถปฏิบตงานในยามสงครามได้ โดยมีการ ัิ เปลี่ยนแปลงน้ อยที่สดอีกด้ วย ุ ๔.๒ ความคล่องตัว (Mobility) คุณลักษณะทางความคล่องตัวของกําลังทางอากาศเป็ นสิงที่มองเห็น ่ ได้ เด่นชัด แต่การซ่อมบํารุงมักจะเป็ นสิงที่ทําให้ ความคล่องตัวของหน่วยนันลดลงเพราะเคลื่อนย้ ายได้ ช้า ่ ้ เนื่องจากมีอปกรณ์ตลอดจนเครื่ องมือเครื่ องใช้ ที่จําเป็ นในการซ่อมบํารุง เพื่อสนับสนุนให้ หน่วยบินสามารถ ุ ปฏิบตภารกิจได้ สําเร็ จนัน มีเป็ นจํานวนมากเกินกว่าที่จะเคลื่อนย้ ายได้ สะดวก แต่ก็อาจทําได้ โดยมีการเตรี ยม ัิ ้ แผนการเคลื่อนย้ ายหน่วยซ่อมบํารุงไว้ ลวงหน้ า โดยจัดส่งส่วนหนึงล่วงหน้ าไปก่อนยังตําบลที่กําหนดจะ ่ ่ เคลื่อนย้ ายไป ส่วนที่เหลือให้ ไปพร้ อมกับหน่วยที่เคลื่อนย้ ายนอกจากนันยังจําเป็ นต้ องดัดแปลงอุปกรณ์ที่ ้ จําเป็ นบางอย่างให้ เหมาะที่จะนําไปทางอากาศได้ อนึง เพื่อให้ หน่วยซ่อมบํารุงมีความคล่องตัวยิงขึ ้นในด้ าน ่ ่ การซ่อมบํารุงนอกที่ตงได้ ทนที จึงสมควรที่จะจัดให้ มีชดซ่อมบํารุงเคลื่อนที่ไว้ ประจําทุกหน่วยซ่อมบํารุง เพื่อ ั้ ั ุ สนับสนุนหน่วยบินในกรณีที่เครื่ องบินของหน่วยขัดข้ องนอกฐานบิน หรื อประสบอุบตเิ หตุ ั ๔.๓ ความประหยัด (Economy) การซ่อมบํารุงอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศต้ องใช้ งบประมาณจํานวนมาก ฉะนัน การจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์และอุปกรณ์ตาง ๆ จึงต้ องพิจารณาอย่างรอบคอบ ้ ่ โดยอาศัยเกณฑ์การพิจารณาดังนี ้ ๔.๓.๑ คุณภาพดี มีอายุใช้ งานเท่าที่ต้องการ ไม่ชํารุดง่าย ๔.๓.๒ สามารถบูรณะรักษาง่าย อุปกรณ์ไม่ยงยากซับซ้ อน จัดหาชิ ้นอะไหล่งาย ข้ อสําคัญที่ ุ่ ่ ควรระลึกอยูเ่ สมอก็คือ อย่ามีมากแบบ เพราะจะเกิดอุปสรรค์ในการซ่อมบํารุง ๔.๓.๓ ค่าใช้ จายในการซ่อมบํารุงตํ่า อาวุธยุทโธปกรณ์ตาง ๆ ที่มีคณลักษณะดังกล่าวจะช่วย ่ ่ ุ ให้ กองทัพอากาศสามารถประหยัดงบประมาณด้ านการจัดหาพัสดุ ส่วนทางด้ านการซ่อมบํารุงก็จะ ประหยัดเวลาและแรงงานซึงสามารถนําไปใช้ ประโยชน์ในการซ่อมบํารุงอื่น ๆ ได้ ่ ๔.๔ การควบคุม (Controlling) ข้ อที่จะต้ องพิจารณาอีกข้ อหนึงก็คือ การควบคุมซึงเป็ นหลักสําคัญ ่ ่ ของการซ่อมบํารุง เพราะกิจการซ่อมบํารุงนอกจากจะสนับสนุนให้ ได้ ตามความต้ องการทางด้ านยุทธการแล้ ว งานซ่อมบํารุงยังเป็ นงานเทคนิคซึงต้ องการผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อให้ ได้ มาซึงความปลอดภัย ฉะนัน จึง ่ ่ ้ จําเป็ นต้ องมีสายการควบคุม ๒ ทาง คือ การควบคุมการผลิต (Production Control) และการควบคุมคุณภาพ (Quality Control) ควบคูกนไป ่ ั ๕. ปรั ชญาการซ่ อมบํารุ ง ๕.๑ การซ่อมบํารุงเป็ นความรับผิดชอบของทุกระดับการบังคับบัญชา ๕.๒ การปรนนิบตบํารุงเป็ นสิงสําคัญ ัิ ่ ๕.๓ การซ่อมบํารุงต้ องไม่กระทบกระเทือนความอ่อนตัว บทที่ ๒ นโยบายการซ่ อมบํารุ ง ความมุงหมายและหลักของการซ่อมบํารุงตามที่กล่าวมาแล้ ว เป็ นเพียงส่วนหนึงของพื ้นฐานของระบบ ่ ่ การซ่อมบํารุงเท่านัน สําหรับนโยบายการซ่อมบํารุงที่ใช้ ยดถือเป็ นหลักในการปฏิบตงาน และใช้ เป็ นแนวทางใน ้ ึ ัิ การซ่อมบํารุงให้ ดําเนินไปได้ พอสมควรมุงหมายนัน มีดงนี ้ ่ ้ ั ๑. ให้ มีหน่วยรับผิดชอบในการควบคุม กํากับดูแลและประสานการปฏิบตของหน่วยซ่อมบํารุงต่าง ๆ ัิ และหน่วยในสายงานส่งกําลังบํารุง เพื่อสนับสนุนการซ่อมบํารุงให้ เป็ นไปโดยเรี ยบร้ อยและต่อเนื่อง โดยให้ ถือ อัตราใช้ การได้ ประจําวันของอาวุธยุทธภัณฑ์เป็ นไปตามเกณฑ์กําหนดคือ ๑.๑ เครื่ องบินและเฮลิคอปเตอร์ ร้ อยละ ๗๐ ๑.๒ อาวุธยุทธภัณฑ์ (เว้ นที่ตดกับเครื่ องบินและเฮลิคอปเตอร์ ) ร้ อยละ ๙๐ ิ ๑.๓ เรดาร์ เครื่ องสื่อสาร เครื่ องช่วยเดินอากาศและเครื่องให้ ความปลอดภัยในการบิน ใช้ การ ได้ เต็มที่อยูเ่ สมอ (๑๐๐%) ๑.๔ ยานพาหนะ เครื่ องทุนแรงและบริภณฑ์ภาคพื ้น ร้ อยละ ๘๐ ่ ั ๑.๕ ไฟฟา ประปา และสิงอํานวยความสะดวก เพื่อใช้ ในการปฏิบตภารกิจของหน่วยโดยตรง ้ ่ ัิ ใช้ การได้ เต็มที่อยูเ่ สมอ (๑๐๐%) ๒. ระบบการซ่อมบํารุงที่จดและดําเนินการอยูในยามปกติ ต้ องสามารถนําไปใช้ ในยามสงครามได้ ั ่ ทันที โดยมีการเปลี่ยนแปลงหรื อปรับปรุงแก้ ไขน้ อยที่สด ุ ๓. การจัดการเกี่ยวกับพัสดุ การบริการทางเทคนิค และกําลังพล เจ้ าหน้ าที่ทางเทคนิคของแต่ละสาย งาน ตลอดจนการควบคุมกํากับดูแลทางเทคนิค เป็ นหน้ าที่รับผิดชอบของส่วนราชการ ต่าง ๆ ในกองทัพอากาศที่เป็ นเจ้ าของเหล่าหรื อทําหน้ าที่เป็ นคลังใหญ่ ๔. ใช้ ระบบการรวมการในการควบคุมสังการ โดยมีศนย์สงกําลังบํารุง บนอ. ทําหน้ าที่เป็ นเครื่ องมือ ่ ู ่ ของผู้บญชาการทหารอากาศ ั ๕. จะต้ องพยายามใช้ เครื่ องมือเครื่ องใช้ ในการซ่อมบํารุงที่เป็ นมาตรฐานเท่าที่จะทําได้ ๖. การซ่อมบํารุงจะต้ องปฏิบตได้ เสมอไม่วาหน่วยจะอยูที่ใด กล่าวคือ หน่วยจะต้ องมีความคล่องตัว ัิ ่ ่ Mobility เครื่ องมือและเจ้ าหน้ าที่ซอมบํารุงต้ องสามารถสนับสนุนความคล่องตัวของหน่วยได้ เสมอ ่ ๗. จะต้ องพยายามหาทางกระตุ้นเตือนให้ ผ้ ปฏิบตงานรู้จกคุณค่าของงาน และรู้จกความรับผิดชอบใน ู ัิ ั ั หน้ าที่ของตน ซึงจะมีผลสะท้ อนไปถึงความสําเร็ จของการงานในหน้ าที่ ่ ๘. จะต้ องเสริมสร้ างความสามารถของหน่วยซ่อมบํารุงของกองทัพอากาศให้ สามารถ ช่วยเหลือตนเองได้ ในยามสงคราม บทที่ ๓ ระบบการซ่ อมบํารุ ง (Maintenance System) ได้ กล่าวมาแล้ วว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ตาง ๆ ตลอดจนเครื่ องมือเครื่ องใช้ จะเสื่อมสภาพลงตามอายุการ ่ ใช้ งานและตามการเวลา ฉะนัน เพื่อให้ สงต่าง ๆ ดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอากาศยานซึงเป็ นยุทธภัณฑ์หลัก ้ ิ่ ่ ของกองทัพอากาศ อยูในสภาพพร้ อมจะใช้ ปฏิบตภารกิจได้ เสมอจึงต้ องจัดให้ มีระบบการซ่อมบํารุงที่มี ่ ัิ ประสิทธิภาพและประหยัด ๑. ระดับของการซ่ อมบํารุ ง (Levels of Maintenance) การจัดระดับของการซ่อมบํารุงมีความแตกต่างกันไปบ้ างระหว่างเหล่าทัพ สุดแล้ วแต่ภารกิจและนโยบายการ ซ่อมบํารุงของกองทัพนันจะกําหนดขึ ้น สําหรับระบบการซ่อมบํารุงที่กองทัพอากาศกําหนดเป็ นมาตรฐานนัน ้ ้ ได้ แบ่งขันตอนการซ่อมบํารุงไว้ ๓ ระดับ ดังนี ้ ้ ระดับของการซ่ อมบํารุ ง ระดับหน่วย (Organizational Level Maintenance) หน้ าที่ ปองกันรักษาของไม่ให้ ชํารุดง่าย ้ (Preventive Maintenance) หน่ วยผู้รับผิดชอบ หน่วยผู้ใช้ /ฝูงบิน กองบินและ/หรื อหน่วยซ่อมบํารุง ระดับแผนกขึ ้นไป โรงงานของกองทัพอากาศหรื อของ เอกชน ระดับกลาง (Intermediate Level แก้ ไขความชํารุดเสียหาย Maintenance) (Corrective Maintenance) ระดับโรงงาน (Depot Level Maintenance) ปรับปรุงสภาพหรื อซ่อมใหญ่ (Restorative Maintenance) การแบ่งระดับของการซ่อมบํารุงดังกล่าวแล้ วนี ้ ช่วยให้ การจัดวิธีดําเนินงานและการกําหนดหน้ าที่ความ รับผิดชอบของแต่ละระดับสะดวกและกระทัดรัดขึ ้นเป็ นอันมาก ดังจะเห็นได้ ดงต่อไปนี ้ ั ๑.๑ การซ่อมบํารุงระดับหน่วย (Organizational Level Maintenance) เป็ นการซ่อมบํารุงระดับตํ่าสุด หลักใหญ่เป็ นการปองกันรักษาไม่ให้ อาวุธยุทโธปกรณ์ ตลอดจนเครื่ องมือ ้ เครื่ องใช้ ทงมวลที่บรรจุอยูในหน่วยต้ องชํารุดเสียหายไปเป็ นเหตุให้ นําไปใช้ ราชการตามภารกิจที่ได้ รับ ั้ ่ มอบหมายไม่ได้ หน้ าที่เหล่านี ้กล่าวโดยส่วนรวมแล้ วก็ได้ แก่การตรวจก่อนการใช้ งาน และหลังการใช้ งาน ตลอดจนการตรวจประจําวันและการตรวจตามระยะเวลา การแก้ ไขข้ อขัดข้ องและการตรวจปรับเล็ก ๆ น้ อย ๆ เพื่อให้ อปกรณ์บางอย่างทํางานถูกต้ องตามเกณฑ์ ขอให้ ระลึกอยูเ่ สมอว่า “การปองกันที่ดีจะทําให้ ประหยัดการ ุ ้ ซ่อมบํารุงลงได้ มาก” ๑.๒ การซ่อมบํารุงระดับกลาง (Intermediate Level Maintenance) เป็ นหารซ่อมบํารุงขันแก้ ไขความชํารุดเสียหายของอาวุธยุทโธปกรณ์ตาง ๆ ซึงชํารุดหรื อขัดข้ องเกินขีด ้ ่ ่ ความสามารถของการซ่อมบํารุงระดับหน่วย ส่วนประกอบที่สําคัญของหน่วยซ่อมบํารุงระดับกลางนี ้ ได้ แก่ หน่วยจัดดําเนินงาน (Maintenance Control) หน่วยควบคุมคุณภาพ (Quality Control) และหน่วยงานซ่อม ต่าง ๆ (Maintenance Activities) ซึงมีเครื่องมือเครื่ องใช้ เครื่ องอํานวยความสะดวก ตลอดจน จนท.ช่าง ่ ชํานาญเพียงพอที่จะทําการแก้ ไขอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ชํารุดเสียหายให้ คืนสภาพเดิมได้ นอกจากนันยังได้ ร่วม ้ การตรวจใหญ่ (Major Inspection) การซ่อมชิ ้นส่วนที่เป็ นชุดการทดสอบอุปกรณ์ (Bench Check) การถอด เปลี่ยนชิ ้นส่วนที่ใช้ งานมาจนครบอายุการตรวจและการดัดแปลงเล็ก ๆ น้ อย ๆ ตามแจ้ งความวิทยการ หรื อ TCTO เพื่อความปลอดภัยในการบินหรื อการใช้ งานและการกู้อากาศยานที่ประสบอุบตเิ หตุ ั ๑.๓ การซ่อมบํารุงระดับโรงงาน (Depot Level Maintenance) เป็ นการซ่อมบํารุงระดับสูงสุดของระบบการซ่อมบํารุง ซึงมีขีดความสามารถสูงกว่าการซ่อมบํารุงระดับหน่วย ่ และระดับกลาง มีหน้ าที่รับผิดชอบในการซ่อมบํารุงเพื่อแก้ ไขให้ กลับคืนสภาพใช้ การได้ ดีเช่นเดิม (Restorative Maintenance) งานนี ้ได้ แก่การปรับปรุงสภาพการซ่อมใหญ่ การประกอบปรับทังชุด รวมทังที่ต้องมีการสร้ าง ้ ้ หรื อดัดแปลงชิ ้นส่วนโครงสร้ างตามแจ้ งความวิทยาการหรื อ TCTO ซึงจะต้ องอาศัยเจ้ าหน้ าที่ซอมบํารุงที่มี ่ ่ ความชํานาญมาก ตลอดจนเครื่ องมือเครื่ องใช้ พิเศษ และเครื่ องอํานวยความสะดวกต่าง ๆ ที่หน่วยซ่อมบํารุง ระดับอื่น ๆ ไม่มี เป็ นต้ น ในกรณีที่งานซ่อมบํารุงระดับโรงงานมีมาก และต้ องการความเร่งด่วนหรื อมีความ จําเป็ นบางประการ หรื อจะต้ องปฏิบตตามนโยบายของผู้บงคับบัญชาระดับสูง ก็อาจจะต้ องจ้ างซ่อมกับโรงงาน ัิ ั ภายนอกกองทัพอากาศที่มีความชํานาญงานโดยเฉพาะรับไปดําเนินการได้ เช่น การส่งเครื่ องยนต์อากาศยาน ไปซ่อมกับบริษัทต่างประเทศ การส่งอากาศยานไปปรับปรุงสภาพ หรื อตรวจซ่อมใหญ่ตามมาตรฐานของ บริษัทผู้ผลิตกับบริ ษัทการบินไทย เป็ นต้ น ส่วนการทําสัญญาจ้ างซ่อมกับหน่วยภายนอกกองทัพอากาศที่ เรี ยกว่า “การจ้ างซ่อมโดยวิธีจ้างเหมาบริการ” (Contract Maintenance) กองทัพอากาศมีนโยบายให้ หน่วย คลังใหญ่ดําเนินการได้ ในกรณีดงต่อไปนี ้ ั • ต้ องเป็ นยุทโธปกรณ์ หรื อบริภณฑ์ ซึงจําเป็ นต้ องได้ รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ั ่ • เป็ นบริ ภณฑ์ที่มีเทคโนโลยีสง ซึง ทอ.ไม่สามารถซ่อมเองได้ ั ู ่ • ต้ องการช่างมีฝีมือ หรื อมีความชํานาญโดยเฉพาะมาทําการซ่อม แนวความคิดในการรวมกิจการซ่อมบํารุงอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยให้ มีมาตรฐานเดียวกัน ในขันการ ้ ซ่อมระดับโรงงานเพื่อเสริ มสร้ างความเจนจัดความประหยัดด้ านเครื่ องมือ เครื่ องใช้ และพัสดุ ได้ มีการ ดําเนินการอยูแล้ วใน ทอ. เป็ นหน่วยแรก การส่งกําลังและซ่อมบํารุงเฮลิคอปเตอร์ ระดับโรงงานแบบรวมการ ่ (Helicopter Single Manager Depot Maintenance and Supply) หรือที่มีชื่อย่อว่า สฮร. โดยให้ ชอ.ปฏิบติ ั หน้ าที่เป็ นหน่วย สฮร.พร้ อมจัดส่วนราชการสถานที่ และสิงอํานวยความสะดวกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้ อง ซึงหน่วย สฮร. ่ ่ จะมีหน้ าที่สงกําลังระดับคลังใหญ่ และควบคุมทางเทคนิคสําหรับ ฮ.UH – 1H ให้ กบส่วนราชการใน บก.ทหาร ่ ั สูงสุด และมีหน้ าที่ซอมบํารุงระดับโรงงาน สําหรับ ฮ.UH – 1H, UN – 1N, BELL 212, BELL 412 ให้ กบส่วน ่ ั ราชการใน บก.ทหารสูงสุด ความแตกต่างของระดับการซ่อมบํารุงทัง้ ๓ ระดับ ที่กล่าวมาแล้ ว มักจะทําให้ เกิดปั ญหาว่า งานใดควรจะซ่อม ระดับไหน เพื่อแก้ ปัญหาในเรื่ องนี ้ กรมส่งกําลังบํารุงทหารอากาศร่วมกับหน่วยในสายยุทธบริการ จึงได้ ดําเนินการออกคําสังกองทัพอากาศ (เฉพาะ) เรื่ อง การวางหลักเกณฑ์ ความรับผิดชอบและขอบเขตการซ่อม ่ บํารุงพัสดุและบริ ภณฑ์สาขาต่าง ๆ ในระดับหน่วย ระดับกลางและระดับโรงงาน ให้ ปฏิบตตามแนวที่แนบท้ าย ั ัิ คําสัง เช่น คําสังกองทัพอากาศ (เฉพาะ) ที่ ๑๘๔/๑๘ ลง ๑๙ สิงหาคม ๒๕๑๘ เรื่ อง หลักเกณฑ์ความ ่ ่ รับผิดชอบและขอบเขตในการซ่อมบํารุงพัสดุสายขนส่ง และคําสังกองทัพอากาศ (เฉพาะ) ที่ ๑๙/๒๑ ลง ๒๖ ่ มกราคม ๒๕๒๑ เรื่ อง หลักเกณฑ์ความรับผิดชอบและขอบเขตในการซ่อมบํารุง และบริภณฑ์สายช่างอากาศ ั เป็ นต้ น การพิจารณาออกคําสังกองทัพอากาศ (เฉพาะ) ดังกล่าวแล้ ว ได้ ยดถือหลักช่วยประกอบการพิจารณาอยู่ ๓ ่ ึ ประการ คือ ๑. ความสมบูรณ์ของเครื่ องมือเครื่ องใช้ และเครื่ องอํานวยความสะดวกอื่น ๆ ๒. ความรู้ความชํานาญของเจ้ าหน้ าที่ผ้ ปฏิบตงาน ู ัิ ๓. เวลาหรื อชัวโมงคน (Man - Hour) ที่ต้องใช้ ในการซ่อม แต่เริ่ มต้ นจนเสร็จ ่ ๒. ระบบการควบคุมกิจการซ่ อมบํารุ ง (Systems for controlling) การควบคุมกิจการซ่อมบํารุงแบ่งออกได้ เป็ น ๒ ระบบ คือ ๒.๑ การควบคุมด้ านธุรการ (Administrative Control) เป็ นการควบคุมตามสายการบังคับบัญชา ขึ ้น ตรงต่อกองบัญชาการกองทัพอากาศ ซึงมีหน้ าที่กําหนดนโยบายการซ่อมบํารุงอย่างกว้ าง ๆ ตลอดจนการ ่ กําหนดแบบอากาศยาน บริภณฑ์ เครื่ องมือ เครื่ องใช้ จะนํามาเข้ าประจําการให้ เหมาะสมตามยุคสมัย และการ ั วางแผนการซ่อมบํารุงให้ สามารถสนับสนุนด้ านยุทธการและการเตรี ยมพล (Operations and Nobilization Plans) พร้ อมทังมีหน้ าที่ตรวจสอบ อนุมตเิ กี่ยวกับการงบประมาณโครงการซ่อมบํารุงประจําปี ด้ วย โดยมีกรม ้ ั ส่งกําลังบํารุงทหารอากาศ เป็ นหน่วยรับผิดชอบ และกําหนดวิธีปฏิบตตาง ๆ ออกมาเป็ นคําสังกองทัพอากาศ ัิ ่ ่ (เฉพาะ) เพื่อให้ ยดถือเป็ นหลักปฏิบตและมีกรมจเรทหารอากาศ เป็ นผู้ตรวจสอบและกวดขันให้ เป็ นไปตามกฎ ึ ัิ อย่างเคร่งครัด ๒.๒ การควบคุมด้ านเทคนิค (Technical Control) กรมในสายยุทธบริการเป็ นหน่วยผู้รับผิดชอบการ ควบคุมสายงานเทคนิคของตน เป็ นการควบคุมวิธีการปฏิบตการซ่อมบํารุงทางด้ านเทคนิคต่ออาวุธ ัิ ยุทโธปกรณ์ ตลอดจนเครื่ องมือเครื่ องใช้ ที่ประจําการในกองทัพอากาศ โดยให้ หน่วยซ่อมบํารุงทุกระดับปฏิบติ ั ตามคําสังเทคนิค คําแนะนําการปฏิบตทางเทคนิคและแจ้ งความวิทยาการเพื่อความปลอดภัยในเวลาใช้ งาน ่ ัิ ซึงจะออกมาเป็ นคําสังกองทัพอากาศ (เฉพาะ) หรื อคําชี ้แจงกองทัพอากาศแล้ วแต่กรณี โดยหัวหน้ าส่วน ่ ่ ราชการกรมในสายยุทธบริ การเสนอผ่านกรมส่งกําลังบํารุงทหารอากาศดําเนินการต่อไป ในกรณีเร่งด่วนที่ จะต้ องปฏิบตตามคําสังเทคนิค ตามกําหนดระยะเวลา (TCTO = Times Compliance Technical Order) ัิ ่ เจ้ ากรมในสายยุทธบริการได้ รับอนุมตให้ ออกคําสังได้ เอง เพื่อความรวดเร็ วในการปฏิบตงานแล้ ว จึงเสนอผ่าน ัิ ่ ัิ กรมส่งกําลังบํารุงทหารอากาศ เพื่อดําเนินการต่อไปภายหลังก็ได้ ๓. ระบบการตรวจสอบ (Inspection System) ๓.๑ วิธีการตรวจ (Inspection Method) ปั จจุบนวิธีการตรวจซ่อมอากาศยานอาวุธยุทโธปกรณ์และ ั บริภณฑ์ตาง ๆ ของ ทอ.ทําการตรวจซ่อมเป็ น ๒ วิธี คือ ั ่ ๓.๑.๑ วิธีการตรวจแบบประจําที่ (Implace Method) คือ การตรวจและการซ่อมบํารุงอากาศยานหรื อ บริภณฑ์ ณ ที่อากาศยานหรื อบริ ภณฑ์นนจอดหรื อวางอยู่ ซึงจะเป็ นที่ลานจอดหรื อที่ได้ กําหนดไว้ ที่หนึงที่ใดก็ ั ั ั้ ่ ่ ได้ โดยหน่วยผู้รับผิดชอบอากาศยานหรื อบริ ภณฑ์นนร้ องขอให้ สงช่างชํานาญการไปทําการตรวจ หรื อแก้ ไข ั ั้ ่ ข้ อขัดข้ องดังกล่าว การตรวจในลักษณะนี ้เป็ นการตรวจแก้ ไขข้ อขัดข้ องก่อน หรื อหลังการใช้ งานของอากาศยาน หรื อบริภณฑ์นน ๆ ั ั้ ๓.๑.๒ วิธีการตรวจแบบสถานีซอม (Dock Method) คือการตรวจอากาศยานหรื อบริภณฑ์นน ๆ ณ ่ ั ั้ สถานีซอมบํารุงของหน่วยซ่อมบํารุงแห่งใดแห่งหนึงที่กําหนดไว้ การตรวจในลักษณะนี ้เป็ นการตรวจแก้ ไข ่ ่ ข้ อขัดข้ อง เมื่ออากาศยานหรื อบริ ภณฑ์นน เข้ าตรวจตามกําหนดระยะเวลาในสถานีซอมของหน่วย ั ั้ ่ วิธีการตรวจอากาศยานหรื อบริ ภณฑ์ดงกล่าวนี ้ ทอ.สหรัฐ ฯ ใช้ แนวความคิดในการซ่อมบํารุงแบบช่างชํานาญ ั ั การ (Specialized Maintenance Concept) ดําเนินการภายใต้ การควบคุม กํากับดูแลของหัวหน้ าซ่อมบํารุง ซึงเป็ นบุคคลคนเดียวกันรับผิดชอบการซ่อมบํารุงระดับหน่วยและระดับกลางของกองบิน หัวหน้ าซ่อมบํารุงของ ่ กองบินนี ้ ทอ.สหรัฐ ฯ เดิมเรี ยกว่า “Chief of Maintenance” ปั จจุบนเรี ยกว่า “Deputy Commander for ั Maintenance” วิธีการดําเนินการควบคุมการซ่อมบํารุงอากาศยาน ระบบอาวุธและบริภณฑ์อื่น ๆ รวมกันทัง้ ๒ ั ระดับ โดยมีผ้ รับผิดชอบ ควบคุม สังการแต่เพียงคนเดียว เป็ นวิธีการซ๋อมบํารุงแบบช่างชํานาญการ คือ ช่าง ู ่ ชํานาญการสาขาต่าง ๆ จะถูกจัดรวมกันไว้ ณ ที่ซอมบํารุงระดับกลาง ส่วนหน่วยซ่อมบํารุงระดับหน่วยมีแต่ ่ ช่างประจําอากาศยาน ซึงมีหน้ าที่รับผิดชอบในการดูแลรักษาอากาศยานที่ตนรับผิดชอบ ถ้ ามีระบบหนึงระบบ ่ ่ ใดของอากาศยานชํารุดขัดข้ อง ก็ร้องขอช่างชํานาญการสาขานัน ๆ จากหน่วยซ่อมบํารุงระดับกลางมาช่วย ้ ซ่อมให้ โดยผ่านหน่วยการจัดดําเนินงาน เมื่อซ่อมเสร็จแล้ วช่างชํานาญการแต่ละสาขามาหน่วยซ่อมบํารุง ระดับกลาง ไปบริ การให้ หน่วยซ่อมระดับหน่วย หรื อ ระดับกลางด้ วยกัน เป็ นการซ่อมบํารุงแบบช่างชํานาญการ ๓.๒ แนวการตรวจ (Inspection Concept) ๓.๒.๑ เนื่องจากอากาศยานแต่ละแบบถูกออกแบบมาให้ ใช้ งาน เพื่อปฏิบตภารกิจต่างกัน มี ัิ ระบบแตกต่างกัน เช่น อากาศยานบางแบบใช้ สําหรับบินฝึ กบางแบบใช้ สําหรับบินลําเลียง เป็ นต้ น ดังนัน ถ้ ามี ้ แนวการตรวจเพียงแบบเดียวก็อาจจะเหมาะสําหรับอากาศยานแบบหนึง แต่ถ้านําไปใช้ กบอากาศยานอีกแบบ ่ ั หนึง ซึงมีระบบการทํางานและภารกิจแตกต่างกัน ก็อาจจะไม่เหมาะสม ทําให้ ต้องเสียเวลาเพื่อการรอคอยทํา ่ ่ การตรวจ และกว่าจะทําการเสร็ จ จนกระทังสามารถนําอากาศยานไปใช้ ปฏิบตภารกิจใหม่ได้ ก็เสียเวลานาน ่ ัิ ดังนัน เพื่อความเหมาะสมที่จะให้ อากาศยานมีเวลาปฏิบตภารกิจได้ มากขึ ้น จึงมีกําหนดแนวการตรวจแบบ ้ ัิ ต่าง ๆ ออกมาโดยมีหลักการใหญ่ ๆ ๓ ข้ อด้ วยกันคือ ๓.๒.๑.๑ ให้ มีความเหมาะสมกับการใช้ อากาศยานแต่ละแบบแต่ละประเภทและมี ความยืดหยุนมากพอสําหรับการวางแผนทางยุทธการและซ่อมบํารุง ่ ๓.๒.๑.๒ ลดเวลาที่จะต้ องเสียไปเนื่องจากอากาศยานต้ องมารอคอยเพื่อรับการตรวจ ให้ น้อยที่สด ุ ๓.๒.๑.๓ ให้ อากาศยานมีความปลอดภัยในการปฏิบตภารกิจมากขึ ้น ัิ ๓.๒.๒ แนวการตรวจที่ปฏิบตกนอยูในขณะนี ้ มีด้วยกัน คือ ัิ ั ่ ๓.๒.๒.๑ แนวการตรวจตามระยะเวลา (Periodic Concept) ๓.๒.๒.๒ แนวการตรวจวัฏภาค (Phased Concept) ๓.๒.๒.๓ แนวการตรวจสมกาล (Isochoral Chack) ๓.๒.๒.๔ แนวการตรวจตามบัตรรายการตรวจของบริษัท (Letter Check) การปฏิบตการตรวจขึ ้นอยูกบว่าอากาศยานนัน ๆ มีแนวการตรวจอยูในแนวไหนก็ให้ ปฏิบตไปตามแนวนันเพียง ัิ ่ ั ้ ่ ัิ ้ แนวเดียว โดยไม่ต้องไปทําการตรวจในแนวอื่นอีก เช่น ในคําสังเทคนิค IT - 23A กําหนดให้ บ.จฝ.๑๓ ต้ อง ่ ปฏิบตการตรวจตามแนวการตรวจตามแนวการตรวจวัตภาค ในกรณีเช่นนี ้ก็ไม่ต้องปฏิบตการตรวจตามแนว ัิ ัิ การตรวจตามระยะเวลาหรือแนวการตรวจแบบอื่น ๆ กับ บ.จฝ.๑๑ อีก ๓.๒.๓ รายละเอียดสําหรับอากาศยานที่อยูภายใต้ แนวการตรวจไหนแล้ วต้ องปฏิบตการตรวจ ่ ัิ อะไรบ้ างนัน มีดงนี ้คือ ้ ั ๓.๒.๓.๑ ถ้ าอากาศยานถูกกําหนดให้ ปฏิบตตามแนวการตรวจตามระยะเวลาอากาศ ัิ ยานเครื่ องนันก็จะได้ รับการตรวจ ดังนี ้ ้ - การตรวจก่อนบิน (Profloght) - PR - การตรวจก่อนวิงขึ ้น (End of Run way) - EOR ่ - การตรวจระหว่างเที่ยวบิน (Thruflight) - TH - การตรวจหลังบินขันมูลฐาน (Basic Postflight) - BPO ้ - การตรวจหลังบินตามกําหนดชัวโมง (Hourly lastflight) - HPO ่ - การตรวจตามระยะเวลา (Periodic) - PE ๓.๒.๓.๒ ถ้ าอากาศยานถูกกําหนดให้ ปฏิบตตามแนววัตภาคอากาศยาน ัิ เครื่ องนันก็จะได้ รับการตรวจดังนี ้ ้ - การตรวจก่อนบิน - การตรวจก่อนวิงขึ ้น ่ - การตรวจระหว่างเที่ยวบิน - การตรวจหลังบินขันมูลฐาน ้ - การตรวจวัตภาค (Phase) - PH ๓.๒.๔ ถ้ าอากาศยานถูกกําหนดให้ ปฏิบตตามแนวสมการอากาศยานเครื่ องนันกจะได้ รับการ ัิ ้ ตรวจดังนี ้ ๓.๒.๔.๑ การตรวจก่อนบิน ๓.๒.๔.๒ การตรวจก่อนวิ่งขึ ้น ๓.๒.๔.๓ การตรวจระหว่างเที่ยวบิน ๓.๒.๔.๔ การตรวจที่ฐานบินประจํา (Home Station Check) - HSC ๓.๒.๔.๕ การตรวจเล็ก (Minor) - MIN ๓.๒.๔.๖ การตรวจใหญ่ (Major) - MAJ ๓.๒.๕ ถ้ าอากาศยานถูกกําหนดให้ ปฏิบตตามแนวการตรวจตามบัตรรายการของบริษัท ัิ (Letter Check) อากาศยานเครื่ องนันจะได้ รับการตรวจดังนี ้ ้ ๓.๒.๕.๑ การตรวจ Daily Inspection ๓.๒.๕.๒ การตรวจ Turn Around Inspection ๓.๒.๕.๓ การตรวจ Progressive Inspection ๓.๒.๕.๔ การตรวจ Structural Inspection ๓.๒.๕.๕ การตรวจ Special Inspection แนวความคิดของ PE, PH และ ISO เป็ นแนวทางตรวจซ่อมที่กระทําได้ ในระดับกลาง (INYRTMRFISYR LRBRL) ซึง ทอ.อม.กําหนดวิธีการไว้ ใน TO.-6 ของ บ.เฉพาะแบบที่ ทอ.อม.มีใช้ งานแล้ วจึงจะไม่กล่าว ่ รายละเอียดในที่นี ้ ส่วนการตรวจแบบ PDM นันเป็ นแนวความคิดของการซ่อมบํารุง อ.ระดับโรงงาน (DEPOT ้ LEVEL) ซึง ทอ.อาจนําวิธีการมาใช้ กบ อ.บางแบบได้ โดยตรง หรื ออาจต้ องดัดแปลงไปบ้ างดังจะกล่าวในหัวข้ อ ่ ั ต่อไป ๔. การซ่ อม อ.ระดับโรงงานตามแผน (PDM) คือ การตรวจซ่อม อ.ในระดับโรงงาน ตามกําหนดเวลาหรื อวิธีการที่ได้ กําหนดไว้ แล้ วโดยถือสภาพที่แท้ จริ งของ อ.เป็ นเกณฑ์ การตรวจนี ้ต้ องการความรู้ความชํานาญบริภณฑ์สงอํานวยความสะดวกต่าง ๆ สูงกว่าระดับกลาง ั ิ่ และเป็ นงานที่นอกเหนือไปจากข้ อกําหนดของ TO.- 6 แต่ก็ไม่จําเป็ นต้ องกระทําที่โรงงานเสมอไป อาจตรวจ ซ่อม ณ หน่วยซ่อมปกติได้ ถ้ามีความพร้ อม คําว่า PDM นี ้จึงมีความหมาย และวิธีการกว้ างกว่าเดิม ๕. ข้ อมูลและวิธีการพิจารณากําหนด อ. เข้ าซ่ อม PDM ดังกล่าวแล้ วว่าแนวความคิด PDM นี ้เป็ นการตรวจซ่อม อ.ตามสภาพที่เป็ นจริง (ON CONDITION) ทอ.อม. จึงตังโครงการพิเศษต่าง ๆ ขึ ้นมาเพื่อติดตามสภาพของ อ.แล้ วนําข้ อมูลที่ได้ มาพิจารณาร่วมกับระบบ ้ เก็บข้ อมูลปกติที่มีอยู่ กําหนดให้ อ.เข้ าซ่อมระดับโรงงาน โดยจะกําหนดไว้ ใน TO. 00-25-4 โครงการหรื อข้ อมูล ดังกล่าว คือ ๕.๑ RELIABILITY CENTERED MAINTENANCE PROGRAM (RCM) ระบบวิธีการวิเคราะห์ เพื่อ วางกําหนดและวิธีการตรวจซ่อมตามกําหนดเวลาโดยการวิเคราะห์จากประเภทการชํารุดและผลกระทบที่เกิด กับโครงสร้ าง, การทํางานชุดอุปกรณ์ ๕.๒ การตรวจวิเคราะห์สภาพ อ. (ANALYTICAL CONDITION INSPECTION ACI) เป็ นวิธีการตรวจ ประเมินค่า อ. ด้ วยวิธีการสุมตัวอย่าง ่ ๕.๓ การยืดอายุการตรวจ อ. (CONTROL INTERVAL EXTENSION .. CIE) ซึงเป็ น ่ โครงการทดลองขยายกําหนดเวลาการเข้ าตรวจซ่อมให้ ยาวขึ ้น ๕.๔ ผลการตรวจซ่อมระดับโรงงานที่ผานมาแล้ ว ่ ๕.๕ โครงการตรวจคุณภาพโครงสร้ าง (AIRCRAFT STRUCTURE INTEGRITY PROGRAM .. ASIP) ๕.๖ ความต้ องการดัดแปลง อ. ๕.๗ ระบบเก็บข้ อมูลการซ่อมบํารุง อ. (MAINTENANCE DATA COLLECTION .. MDC) ๕.๘ การเร่งอายุใช้ งาน อ. (LEAD THE FORCE .. LTF) ซึงเป็ นโครงการพิเศษเลือก บ.จํานวนหนึง เร่ง ่ ่ ชม.บินให้ สงและเพิ่มขึ ้นเร็ วกว่าปกติ เพื่อตรวจหาข้ อขัดข้ องที่เกิดขึ ้นกับ อ.เหล่านันสําหรับกําหนดวิธีการ ู ้ ปองกันมิให้ เกิดขึ ้นกับ อ.ทังหมดล่วงหน้ า ้ ้ ๕.๙ การรายงานข้ อขัดข้ องทางเทคนิค (MATERIAL DEFICIENCY REPORT..MDR) ๕.๑๐ ข้ อมูลจากการสํารวจความต้ องการของผู้ใช้ อ. ข้ อมูลทังหมดจะเป็ นสิงกําหนดเงื่อนไขและความ ้ ่ จําเป็ นในการส่ง อ.เข้ าซ่อม PDM โดยจะแยกประเภท อ.แบบต่าง ๆ ที่ TO-00-25-4 กล่าวถึง ออกเป็ น ๓ ประเภท แตกต่างกัน ตามข้ อ ๖ ๖. การแบ่ งประเภท อ.เข้ าซ่ อมระดับโรงงาน (DEPOT MAINTENANCE) ทอ.อม.แบ่ง อ.เข้ าซ่อมระดับโรงงานซึงกําหนดเป็ น PDM อยู่ ๓ ประเภท คือ ่ ๖.๑ อ.ประเภทที่ต้องทําการดัดแปลง (MODIFICATION BASIS) คือ อ.ประเภทที่เมื่อมีความ จําเป็ นต้ องดัดแปลงในระดับโรงงาน ให้ สง PDM ได้ โดยไม่ต้องรอให้ ถงกําหนดเวลา PDM ที่วางไว้ เดิม ่ ึ ๖.๒ อ.ประเภทที่มีกําหนดเวลาปฏิทิน (CALENDAP TIME CYCLE BASIS) คือ อ.ที่มีกําหนดเวลา เกินวงรอบเข้ า PDM แน่นอน นับตามเวลาปฏิทินโดยทัวไปมักจะนับเป็ นเดือน ่ ๖.๓ อ.ประเภทยกเว้ น (EXCEPTED AIRCRAFT) คือ อ.ประเภทที่หน่วยผู้ใช้ สามารถซ่อมบํารุงได้ เอง อย่างมีประสิทธิภาพ ความจําเป็ นในการซ่อมระดับโรงงานนันขึ ้นอยูกบสภาพของ อ.แต่ละเครื่ อง (มิใช่ขึ ้นอยู่ ้ ่ ั กับสภาพการโดยส่วนรวม) อีกประการหนึงคือ จะต้ องมีวิธีการปฏิบตเิ ป็ นพิเศษ จึงจะทราบว่า จะต้ องเข้ าซ่อม ่ ั หรื อดัดแปลงในระดับโรงงานหรื อไม่ อ.ประเภทนี ้จึงต้ องใช้ วิธีตรวจวิเคราะห์สภาพ (ANALYTICAL CONDITION INSPECTION หรื อ ACI) ประเมินค่า อ.เพื่อเข้ าซ่อม PDM โดยจะทําการตรวจ ACI เมื่อ อ.เข้ า ตรวจซ่อมตามกําหนดเวลาปกติ ดังจะกล่าวโดยสังเขปในข้ อ ๗ ๗. การตรวจวิเคราะห์ สภาพ อ. (ANALYTICAL CONDITION INSPECTION หรือ ACI) อ.๒ ประเภทแรก มีกําหนดหรื อเงือนไขให้ เข้ า PDM แน่นอน จึงไม่มีความยุงยากในการปฏิบติ แต่ ่ ั สําหรับ อ.ประเภทยกเว้ นนัน ความจําเป็ นในการเข้ า PDM ขึ ้นอยูกบสภาพ (ON CONDITION) จึงต้ องใช้ การ ้ ่ ั ประเมินค่าด้ วยวิธี ACI ๗.๑ การตรวจวิเคราะห์สภาพ อ. (ACI) เป็ นวิธีการประเมินค่าสภาพ อ.ด้ วยการสุมตัวอย่าง อ.จํานวน ่ หนึง มาตรวจการชํารุดที่การตรวจปกติเข้ าไม่ถึง เช่น การชํารุดจากการผุกร่อน ความเครี ยด ฉีกขาด หรื อ ่ อิทธิพลจากสภาพแวดล้ อมด้ วยวิธี NDI (NONDEXTRUCTIVE INSPECTION) เพื่อนําผลมาวิเคราะห์ประเมิน ค่าสภาพ อ.แบบเดียวกันทังหมด แล้ วกําหนดวิธีการแก้ ไขที่เหมาะสมต่อไป การตรวจวิธีนี ้จะต้ องกระทํา ้ ตลอดไปไม่มีที่สิ ้นสุดเพื่อให้ เกิดความสมควรเดินอากาศ หรื อ AIRWORTHINESS ๗.๒ การตรวจประจําปี (ANNUAL TASK) ๗.๒.๑ การตรวจประจําปี (ANNUAL TASK) การตรวจนี ้จะต้ องทําทุกปี เพื่อตรวจโครงสร้ าง หลัก จุดที่มีความเครี ยดหรื อแรงกระทําทางอากาศศาสตร์ สง เช่น ช่องเก็บฐาน, ผิวพื ้นบังคับบริ เวณติดระเบิด, ู พื ้นที่ผิวปี กด้ านล่าง เป็ นต้ น ข้ อมูลสําหรับการตรวจนี ้จะได้ จาก ASIP MDR, รายงานอุบตเิ หตุอบตการ, การ ั ุ ัิ ปรับปรุงวัสดุ (MATERIAL INPROVEMENT PROGRAM..MIP) ๗.๒.๒ การตรวจภาค (PHASE TASK) เป็ นการตรวจที่ต้องกระทําเป็ นบางปี สลับกันไปใช้ ตรวจโครงสร้ างรองหรื อระบบย่อย เช่น ระบบ ชพ. ระบบยังชีพ ไฮครอลิคล์ ระบบบังคับการบิน ระบบสื่อสาร เป็ นต้ น ระบบเหล่านี ้จะครบวงรอบการตรวจภายใน ๒ หรื อ ๓ ปี ๗.๓ การแยกประเภทการชํารุด อาการชํารุดที่ตรวจพบในขณะทํา ACI แบ่งออกเป็ น ๓ ระดับ คือ ๗.๓.๑ การชํารุดเล็กน้ อย (MIMOR DEFECT) คืออาการชํารุดที่ไม่กระทบกระเทือนต่อการใช้ งานและคุณสมบัตของวัสดุอปกรณ์หรื อระบบ หรื ออาจทําให้ เกิดความผิดพลาดจากเกณฑ์มาตรฐานไปเพียง ิ ุ เล็กน้ อย ๗.๓.๒ การชํารุดมาก (MAFOR DEFECT) คือ การชํารุดที่อาจกระทบกระเทือนต่อการใช้ งาน เสียคุณสมบัติ หรื อทําให้ ใช้ งานไม่ได้ ดีตรงตามจุดประสงค์แต่ก็มีรุนแรงจนถึงขันวิกฤต ้ ๗.๓.๓ การชํารุดขันวิกฤต (CRITICAL DEFECT) คือการชํารุดที่อาจทําให้ บคคลได้ รับ ้ ุ อันตราย อุปกรณ์อาจชํารุดเสียหาย หรื อทําให้ อ.ปฏิบติภารกิจไม่ได้ ั ๗.๔ การพิจารณาเลือก อ.เข้ ารับการตรวจ ACI การกําหนดจํานวนและเลือก อ.เข้ ารับการตรวจ ACI จะพิจารณาจาก ๗.๔.๑ อ.ใช้ งานอยูตามปกติ โดยพิจารณาถึง จํานวน, รูปแบบ (CONFIGURATION) ภารกิจ, ่ สภาพแวดล้ อมของการปฏิบตการ, อายุการใช้ งานที่นบตามวันปฏิทินและชัวโมงบิน, อ.ที่ไม่เคยมีอบตเิ หตุมา ัิ ั ่ ุ ั ก่อน, อ.ที่ไม่เคยมีหลักฐานโครงสร้ างหลักชํารุดหรื อ อ.ที่ยงไม่เคยทํา ACI มาก่อน ั ๗.๔.๒ อ.ประเภทที่อยูในโครงการ เร่งอายุใช้ งาน (LTF) หรื อโครงการยืดกําหนดการตรวจ ่ ๗.๕ การสุมตัวอย่าง (SAMPLING) ก่อนการสุมตัวอย่าง แผนการดําเนินการควรจะต้ องระบุ ่ ่ ข้ อขัดข้ องที่ตวการจะตรวจระยะเวลา, จํานวน อ.ที่จะสุมตัวอย่าง, สถานที่กําหนดเวลาการแบ่งกลุม อ.ภายใน ั ่ ่ ฝูงบิน, ขอบเขต ความหมายของการชํารุด และวิธีการปฏิบตเิ มื่อได้ ผลการตรวจ ACI เบื ้องต้ นแล้ ว แผนนี ้ ั จะต้ องทําเป็ นเอกสารรวบรวมไว้ เพื่อการวิเคราะห์ผลการตรวจ ACI ครังต่อไป ้ ๗.๕.๑ การสุมตัวอย่าง อ.เพื่อตรวจ ACI มี ๒ ขันตอน คือ ่ ้ FORCE SIZE PRIMARS SAMPLE SIZE SECONDARY SAMPLE SIZE 13 – 19 20 – 36 37 – 199 200 AND OVER 8 9 10 11 10 12 13 13 ๗.๕.๑.๑ การสุมตัวอย่างหลัก (PRIMARY SAMPLE) เป็ นการสุมตัวอย่างครังแรก ่ ่ ้ เพื่อหาการชํารุดที่เกิดขึ ้นกับ อ.ภายในฝูงบิน ๒๐% ขึ ้นไปตามจํานวนตัวอย่างที่กําหนดไว้ ในช่อง PRIMARY สามารถเชื่อถือได้ ถึง ๙๐% ว่าถ้ า อ.ภายในฝูงบินชํารุดด้ วยอาการอย่างเดียวกันเกินร้ อยละ ๓๐ จะต้ องตรวจ พบในตัวอย่าง อ.ที่สมมาอย่างแน่นอน แต่ถ้าในตัวอย่างที่สมมานัน ตรวจพบอาการชํารุดอย่างหนึงใน อ.เพียง ุ่ ุ่ ้ ่ เครื่ องเดียวกรณีเช่นนี ้เรี ยกว่า SINGLE FIND DEFECT ซึงยังเชื่อไม่ได้ วา อ.ภายในฝูงบิน ๒๐% ขึ ้นไป จะเป็ น ่ ่ เช่นนันด้ วย SINGLE FIND DEFECT ที่อยูในขันการชํารุดมากชํารุดวิกฤตหรื อเป็ นการชํารุดที่สงสัยว่าอาจจะ ้ ่ ้ เกิด (SUSPECT AREA) จะต้ องสุมตัวอย่างใหม่อีกครังหนึง ตามจํานวนในช่อง SECONDARY SAMPLE ส่วน ่ ้ ่ SINGLE FIND DEFECT ที่อยูในขันชํารุดเล็กน้ อยไม่ต้องสุมตัวอย่างเพิ่มเติมและจะคัดออกจากการตรวจ ACI ่ ้ ่ ๘. องค์ ประกอบที่สาคัญในการซ่ อมบํารุ ง ํ การซ่อมบํารุง จะต้ องดําเนินไปตามหลักการมูลฐานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทังองค์ประกอบต่าง ๆที่ ้ เกี่ยวข้ อง มิฉะนันแล้ ว การซ่อมบํารุงจะไม่เป็ นไปโดยต่อเนื่อง องค์ประกอบที่สําคัญ ได้ แก่ ้ ๘.๑ เอกสารเทคนิค และคูมือการซ่อมบํารุง (TECHNICAL ANAUAL) เอกสารคําแนะนําการปฏิบติ ่ ั ประเภท (SERVICE BULLETIN) คําสังเทคนิคที่จะต้ องปฏิบตตามระยะเวลา (TINE COMPLIANCE ่ ัิ TECHNICAL ORDER = TCTO) ซึงจะต้ องจัดให้ มีประจําหน่วยที่รับผิดชอบยุทโธปกรณ์นน ๆ ไว้ เป็ นหลัก ่ ั้ สําหรับเจ้ าหน้ าที่ซอมบํารุงไว้ ใช้ ปฏิบตและศึกษา ค้ นคว้ าวิจย ตลอดจนค้ นหาสาเหตุของการชํารุดที่อาจเกิดขึ ้น ่ ัิ ั และใช้ ในการปองกันการเสียหายแก่ยทโธปกรณ์นน ๆ ด้ วย ้ ุ ั้ ๘.๒ พัสดุ และ / หรื อบริ ภณฑ์ ที่จะต้ องรับการซ่อมบํารุงไว้ หมุน จะต้ องได้ รับการพิจารณาด้ วยว่าควร ั จะต้ องทําการซ่อมบํารุง และ/หรื อ บริ ภณฑ์ประเภทใดบ้ าง จํานวนเท่าใด จึงจะพอใช้ หมุนเวียนในการซ่อม ั บํารุงในรอบปี โดยถือเอาเกณฑ์การใช้ งานของพัสดุ และ/หรื อ บริภณฑ์นน ๆ และขีดความสามารถในการซ่อม ั ั้ ของหน่วยซ่อมบํารุงระดับที่เกี่ยวข้ องเป็ นหลัก การดําเนินการดังกล่าวกระทําโดยการจัดทําแผนกําหนดการ สร้ างผลิตหรื อซ่อมพัสดุและบริ ภณฑ์ประจําปี (MRS = MASTER REPAIR SCHEDULE) ขันแผนกําหนดการ ั ้ จะเป็ นข้ อมูลในการเสนอความต้ องการ ในการขอรับการสนับสนุนพัสดุอปกรณ์ ชิ ้นอะไหล่ที่ต้องการใช้ ซอม ุ ่ ต่อไป ๘.๓ อุปกรณ์ชิ ้นอะไหล่ และวัสดุที่จะต้ องใช้ เพื่อการซ่อมตามข้ อ ๒.๒ จะต้ องจัดทําบัญชีความต้ องการ พัสดุ (MRL = MATERIAL REQUIREMENT LIST) ประจําปี ขึ ้นแสดงรายการความต้ องการพัสดุตาง ๆ ที่ต้อง ่ ใช้ วามีอะไรบ้ าง จํานวนเท่าใด และงบประมาณที่ต้องการสนับสนุนพัสดุทงหลายนี ้ เป็ นจํานวนเท่าใด ถ้ าหน่วย ่ ั้ ผู้รับผิดชอบมิได้ เสนอแผนการจัดหาพัสดุอปกรณ์ ชิ ้นอะไหล่ที่ต้องการใช้ แล้ ว การซ่อมบํารุงพัสดุและบริภณฑ์ที่ ุ ั จะนําไปใช้ ซอมบํารุงยุทโธปกรณ์หลัก เช่น อากาศยานอาจได้ รับการกระทบกระเทือนและอาจเป็ นผลเสียหาย ่ ต่อภารกิจของหน่วยได้ ๘.๔ เครื่ องมือ เครื่ องใช้ เครื่ องจักรกล เครื่ องอํานวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จําเป็ นต้ องใช้ ในการซ่อม บํารุง รวมทังเครื่ องมือเครื่ องใช้ ในการทดสอบ จะต้ องจัดให้ มีอย่างเพียงพอ พร้ อมทังมีสํารองทดแทนและจัดให้ ้ ้ มีการควบคุมการใช้ งานให้ เป็ นไปตามเกณฑ์ที่กําหนดอย่างถูกต้ อง ๘.๕ กําลังพล และ/หรื อ เจ้ าหน้ าที่ซอมบํารุง ช่างชํานาญการสาขาต่าง ๆ ที่มีความรู้ความชํานาญ ่ จะต้ องจัดให้ มีอย่างเพียงพอแก่การปฏิบตงาน การบรรจุบคคลจะต้ องบรรจุให้ ตรงกับความรู้และหน้ าที่ที่ ัิ ุ รับผิดชอบ ถ้ าเจ้ าหน้ าที่ซอมบํารุงไม่มีความรู้ความชํานาญจะต้ องให้ มีการฝึ ก ศึกษา อบรม ตามความจําเป็ น ่ โดยการอบรมในหลักสูตร หรื อการฝึ กอบรมภายในหน่วย (OJT) ๘.๖ ข้ อมูลในการซ่อมบํารุง จะต้ องมีวิธีการเก็บข้ อมูลที่จําเป็ นและเกี่ยวข้ องไว้ สาหรับนําไปใช้ เป็ น ํ เครื่ องช่วยในการวางแผนและการตัดสินตกลงใจของผู้บริ หารหรื อผู้บงคับบัญชาของหน่วยซ่อมบํารุงต่อไป ั ข้ อมูลในการซ่อมบํารุงปั จจุบน ได้ มีกรรมวิธีในการเก็บรวบรวมและรายงานด้ วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึงได้ ข้อมูล ั ่ รวดเร็ วและถูกต้ องกว่าการกระทําด้ วยบุคคล สําหรับใน ทอ.ระบบบริหารข้ อมูลการซ่อมบํารุงเป็ นระบบหนึง ่ ของ ALMS (ระบบส่งกําลังบํารุงอัตโนมัต) เป็ นระบบซึงรวบรวมติดตามผลการปฏิบตงานทางด้ านการซ่อม ิ ่ ัิ บํารุง และการใช้ งานของพัสดุ/บริ ภณฑ์ให้ เป็ นไปได้ โดยถูกต้ องและต่อเนื่อง โดยใช้ เครื่ องคอมพิวเตอร์ เป็ น ั เครื่ องมือในการดําเนินกรรมวิธีข้อมูล แล้ วนําผลที่ได้ ไปใช้ ในการจัดการด้ านการซ่อมบํารุงต่อไปในระบบบริ หาร ข้ อมูลแบ่งออกเป็ น ๔ ระบบย่อย คือ ๘.๖.๑ ระบบสะสมข้ อมูลการซ่อมบํารุงและการวิเคราะห์ (MAINTENANCE DATA COLLECTION AND ANALYSIS SYSTEM) สามารถใช้ ได้ กบการซ่อมบํารุงทุกระดับ/ทุกประเภท ั ๘.๖.๒ ระบบติดตามการใช้ งานชิ ้นอะไหล่ (SERIALIZE PART EVENT TRACKING SYSTEM) ใช้ ตดตามการใช้ งานพัสดุ/บริ ภณฑ์ที่มีกําหนดระยะเวลา การตรวจ PE ฯลฯ ิ ั ๘.๖.๓ ระบบบริ หารเอกสารเทคนิค (TCTO MANAGEMENT SYSTEM) ใช้ ตดตาม/บริ หาร ิ เอกสารเทคนิค ให้ ปฏิบตตอพัสดุและบริ ภณฑ์เพื่อดําเนินการปรับแต่ง/แก้ ไข/ดัดแปลง ให้ พสดุและบริภณฑ์นน ัิ ่ ั ั ั ั้ ๆ อยูในขันปลอดภัย สมบูรณ์ที่จะนําไปใช้ งาน ่ ้ ๘.๖.๔ ระบบบริ หารการปรับเทียบมาตรฐาน (CALIBRATION MANAGEMENT SYSTEM) ใช้ ตดตามการซ่อมบํารุง/ปรับเทียบมาตรฐานบริภณฑ์/เครื่ องวัด ตามกําหนดระยะเวลาที่กําหนดไว้ ซึงบริภณฑ์ ิ ั ่ ั เครื่ องวัดเหล่านี ้ใช้ สนับสนุนการซ่อมบํารุง อ./การปฏิบตการบิน และบริภณฑ์อื่น ๆ จึงเป็ นเรื่ องสําคัญที่จะต้ อง ัิ ั ให้ บริภณฑ์เครื่ องวัดเหล่านันได้ รับการปรับเทียบให้ ตรงตามมาตรฐานอยูเ่ สมอ ั ้ ๙ ประโยชน์ ท่ ได้ รับจากระบบบริหารข้ อมูลการซ่ อมบํารุ ง ี สามารถควบคุมติดตามผลการดําเนินงานในกิจการซ่อมบํารุง อ.และบริภณฑ์ของ ทอ.ให้ ครบถ้ วนทัง้ ั ๓ ระดับ และสามารถดัดแปลงวิธีการเก็บข้ อมูลกับบริภณฑ์อื่น ๆ ได้ ประโยชน์ที่จะได้ รับ ดังนี ้ ั ๑. สามารถควบคุมติดตามบริ ภณฑ์ที่ต้องถอดเปลี่ยนตามระยะเวลา/การตรวจซ่อมตามระยะเวลา/ ั การตรวจพิเศษ ได้ อย่างรัดกุมไม่ผิดพลาดเนื่องจากการหลงลืม/ตกสํารวจ ๒. ระบบงานถูกกํากับดูแล/ติดตามด้ วยคอมพิวเตอร์ จึงสามารถใช้ เวลาส่วนใหญ่ไปในการพัฒนา/ แก้ ปัญหาของหน่วยงาน ๓. สามารถค้ นหาหลักฐาน ประวัติ ได้ ง่าย รวดเร็ว ประหยัดเวลาทํางาน ๔. มีข้อมูลสําหรับการวางแผน การจัดหาพัสดุลวงหน้ าอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็ นข้ อมูลที่เกิด ่ จากการใช้ งานจริ งของหน่วย ๕. สนองความต้ องการข้ อมูลของหน่วยเหนือได้ อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และสามารถนําข้ อมูล จากรายงานในระบบมาใช้ งานได้ โดยตรง จึงแบ่งภาระการทํารายงานของหน่วย บทที่ ๔ หน้ าที่ของนายทหารซ่ อมบํารุ ง เพื่อให้ อาวุธยุทโธปกรณ์ตาง ๆ ของกองทัพอากาศ มีอตราใช้ การได้ อย่างมีประสิทธิภาพตามความ ่ ั ต้ องการ นายทหารซ่อมบํารุงซึงเป็ นผู้รับผิดชอบยุทธภัณฑ์นน ๆ โดยตรง จึงมีหน้ าที่ที่จะต้ องปฏิบตการซ่อม ่ ั้ ัิ บํารุง ซึงพอสรุปงานได้ เป็ นหลัก ๓ ข้ อ ดังนี ้ ่ ๑. บํารุงรักษาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ ใช้ งานได้ อยูเ่ สมอ นายทหารซ่อมบํารุงจะต้ องหมันตรวจดูแลว่า ่ อาวุธยุทโธปกรณ์ในความรับผิดชอบ ได้ ถกใช้ งานและได้ รับการซ่อมบํารุงที่ถกต้ องหรื อไม่ ช่างหรือ จนท.ซ่อม ู ู บํารุงทุกนายมีหน้ าที่จะต้ องปองกันความเสียหายหรื อชํารุด สึกหลอ โดยไม่จําเป็ นที่จะเกิดขึ ้นแก่อาวุธ ้ ยุทโธปกรณ์ การใช้ อาวุธยุทโธปกรณ์ผิดหลักเทคนิคหรื อผิดประเภทก็เป็ นข้ อเสียอย่างหนึงที่จะทําให้ ่ ยุทโธปกรณ์นนชํารุดเร็ ว เช่นกรณีอากาศยาน หากใช้ เครื่ องยนต์รุนแรงเกินไปเป็ นเวลานาน อายุการใช้ งานก็จะ ั้ สันกว่าที่กําหนดไว้ การตรวจประจําวันโดยละเอียดจะเป็ นการช่วยลดการชํารุดลงได้ มาก เช่น ถ้ าตรวจพบการ ้ ชํารุดเล็ก ๆ น้ อย ๆ ก็รีบดําเนินการซ่อมเสียทันที ก่อนที่จะชํารุดมากขึ ้น เพื่อให้ ใช้ งานได้ โดยปลอดภัย ๒. พิจารณาแก้ ไขข้ อขัดข้ องอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ สามรถใช้ งานได้ ดีขึ ้น ง่ายหรื อลดการซ่อมบํารุงลง นายทหารซ่อมบํารุงจะต้ องเป็ นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้ างสรรค์ สามารถเสนอแนะปรับปรุงแก้ ไขข้ อขัดข้ องที่ เกิดขึ ้นผิดปกติ หรื อเกิดขึ ้นเป็ นประจําต่ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่รับผิดชอบได้ โดยถูกต้ อง เพื่อเป็ นแนวทางให้ มีการ แก้ ไขดัดแปลงปรับปรุงข้ อขัดข้ องที่เกิดขึ ้นนันตามหลักเทคนิคที่ถกต้ องต่อไป ความรู้ความสามารถดังกล่าว ้ ู ได้ มาจากประสบการณ์ความชัดเจนและความรู้ทางด้ านเทคนิค เป็ นต้ น ๓. จัดระบบการดําเนินการซ่อมบํารุงให้ มีประสิทธิภาพ ประหยัด และให้ ได้ ผลตามภารกิจ นายทหาร ซ่อมบํารุงจะต้ องมีความรู้ทางด้ านบริหารงานภายในหน่วยที่ตนรับผิดชอบมากพอสมควรและนํามาใช้ ให้ เกิด ประโยชน์อย่างจริงจัง เพื่อให้ สามารถควบคุมกิจการซ่อมบํารุงยุทธภัณฑ์ให้ ผลบรรลุถึงเปาหมายอย่างมีประ ้ สิทธภาพซึงได้ แก่ความรู้ในเรื่ องพันธกิจของการดําเนินงาน (Functions of Maintenance) เพื่อเป็ นแนวทางใน ่ การบริหารงานของหน่วยได้ ถกต้ องและมีประสิทธิภาพ การจัดดําเนินงานที่ดี จําเป็ นจะต้ องพิจารณาโดย ู ละเอียดรอบคอบเกี่ยวกับขอบเขตของพันธกิจ พันธกิจของการจัดดําเนินงานได้ แก่ การวางแผน การอํานวยการ การประสานงานและการควบคุม ๓.๑ การวางแผน (Planning) เป็ นพันธกิจประการแรกของการจัดดําเนินงานพันธกิจนี ้ก็คือ กระบวนการทางแนวความคิดเพื่อพิจารณาเลือกหนทางปฏิบตที่ดีที่สดในการซ่อมบํารุงอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ ใช้ ัิ ุ การได้ เพียงพอตามนโยบายของผู้บงคับบัญชา โดยอาศัยปั จจัยและสิงแวดล้ อม เช่น ข้ อมูลและสถิตตาง ๆ เป็ น ั ่ ิ ่ แนวทางการพิจารณาวางแผนที่ดีจะช่วยให้ งานซ่อมบํารุงดําเนินไปอย่างสมํ่าเสมอ ไม่เกิดปั ญหาเรื่ องงานหรื อ งานล้ นมือ ๓.๒ การจัด (Organizing) เป็ นพันธกิจของการพิจารณาและจัดตังโครงสร้ างของหน่วยงาน ้ วิธีการทํางานและกําหนดความต้ องการทรัพยากรต่าง ๆ ที่จะนํามาใช้ ในการซ่อมบํารุงตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะโครงสร้ างของหน่วยงานนันจะต้ องอาศัยหลักการจัดหน่วย ๔ ประการ ได้ แก่ เอกภาพการบังคับ ้ บัญชา (Unity of Command) ขอบเขตการควบคุม (Span of Control) การรวมงานประเภทเดียวกัน (Homogeneous Assignment) และการมอบอํานาจ (Delegation of Authority) ๓.๓ การอํานวยการ (Directing) เป็ นพันธกิจในการดําเนินงานให้ แผนที่วางไว้ เป็ นจริ งจัง ขึ ้นมา โดยนําเอาทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยูในหน่วยออกมาใช้ งานตามความต้ องการ เพื่อให้ บรรลุถึงวัตถุประสงค์ ่ ที่ได้ กําหนดไว้ การอํานวยการเป็ นการสังการให้ หน่วยรองปฏิบตงาน ซึงอาจสังด้ วยวาจาหรื อลายลักษณ์อกษร ่ ัิ ่ ่ ั ก็ได้ ตามความเหมาะสมสิงสําคัญที่จะต้ องระลึกไว้ เสมอก็คือ ต้ องเป็ นคําสังที่ผ้ รับคําสังสามารถเข้ าใจและ ่ ่ ู ่ ปฏิบตได้ ัิ ๓.๔ การประสานงาน (Coordinating) เป็ นพันธกิจในการทําให้ หน่วยต่าง ๆ ในบังคับบัญชา ทํางานร่วมกันได้ โดยไม่มีการขัดแย้ ง และทํางานสอดคล้ องต่อเนื่องตลอดจนทําให้ มีการร่วมมือกันด้ วยดี การ ประสานงานที่ดีจะทําให้ แก้ ไขอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ ้นได้ ง่าย การประสานงานต้ องระวังอย่าให้ มากเกินไปจน เป็ นการวุนวายได้ พอ ๆ กับการขาดการประสานงาน ่ ๓.๕ การควบคุม (Controlling) เป็ นพันธกิจของการตรวจสอบและกํากับดูแลผลผลิตให้ เป็ นไปตามแผนการซ่อมบํารุงที่ได้ วางไว้ หรื อที่ได้ สงการไปว่างานก้ าวหน้ าไปแค่ไหนมีความถูกต้ องเพียงใด จะ ั่ เสร็ จตามกําหนดที่ประมาณหรื อไม่ หรื อมีปัญหาข้ อขัดข้ องอย่างใดบ้ าง เพื่อจะได้ ดําเนินการแก้ ปัญหาได้ ทันเวลา เป็ นการปองกันงานชะงัก ด้ วยเหตุนี ้นายทหารซ่อมบํารุงจึงจําเป็ นจะต้ องควบคุมผลผลิตอย่างใกล้ ชิด ้ ทังด้ านปริมาณและด้ านคุณภาพ เพื่อให้ บรรลุเปาหมายข้ างต้ น ้ ้ บทที่ ๕ ปั จจัยที่กระทบกระเทือนต่ อผลการซ่ อมบํารุ ง (Factors Affecting Maintenance) อาวุธยุทโธปกรณ์โดยเฉพาะอากาศยาน ได้ รับการวิวฒนาการให้ มีสมรรถนะสูงขึ ้นดังที่ได้ กล่าวมาแล้ ว ั ในบทนํา ความยุงยากสลับซับซ้ อนของระบบการทํางานของอุปกรณ์ตาง ๆ มีมากยิงขึ ้น ต้ องอาศัยช่างซ่อม ่ ่ ่ บํารุง ที่มีความรู้ความชํานาญเครื่ องมือเครื่ องใช้ พิเศษ ตลอดจนชิ ้นอะไหล่มากกว่าอากาศยานแบบเก่า ๆ จึง ก่อให้ เกิดปั ญหาหลายประการขึ ้นมาส่งผลกระทบกระเทือนการซ่อมบํารุง ศูนย์สงกําลังบํารุง กองบัญชาการ ่ สนับสนุนทหารอากาศ (Logistics Control Center) หรื อ ศกบ.บนอ. ซึงควบคุมสถานภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ ่ ประจําวันของ ทอ.อย่างใกล้ ชิด พบอยูเ่ สมอว่าอาวุธยุทโธปกรณ์สวนมากโดยเฉพาะที่มีอายุการใช้ งานมานาน ่ พอสมควรมักจะมีอตราใช้ การได้ ตํ่ากว่าเกณฑ์ที่กําหนดไว้ ในนโยบายของกองทัพอากาศ ปั ญหาหรื อปั จจัย ั ต่าง ๆ ที่กระทบกระเทือนต่อผลการซ่อมบํารุงเท่าที่พบมีดงต่อไปนี ้ ั ๑. การขาดแผนการซ่ อมบํารุ งที่ดี ผู้วางแผนที่ดี จะต้ องมีความรู้และจัดเจนงานซ่อมบํารุงอาวุธยุทโธปกรณ์นน ๆ รู้ขีดความสามารถของ ั้ หน่วยซ่อมบํารุง ตลอดจนทรัพยากรที่จะใช้ สนับสนุนเป็ นอย่างดี สามารถคาดคะเนสถานการณ์และอุปสรรคที่ อาจจะเกิดขึ ้นในระหว่างดําเนินการซ่อมบํารุงตามแผนได้ ใกล้ เคียงความเป็ นจริงที่สด และแผนการซ่อมบํารุง ุ จะต้ องอ่อนตัวได้ ตามความจําเป็ น โดยปกติหน่วยซ่อมบํารุงทุกระดับจะต้ องวางแผนการซ่อมบํารุงไว้ ลวงหน้ า ่ เพื่อเตรี ยมสนองความต้ องการทางด้ านยุทธการให้ เพียงพอทันความต้ องการ แต่ก็มกจะปฏิบตไม่ได้ ตามแผน ั ัิ อย่างสมบูรณ์ เพราะงานไม่เสร็ จตามกําหนดที่ได้ ประมาณการไว้ เนื่องจากแผนการซ่อมบํารุงไม่ดพอนันเอง จึง ี ่ กระทบกระเทือนไปถึงขุมกําลัง (Resources) ได้ แก่ แรงงาน พัสดุ เวลาและสถานที่ ซึงมักจะทําให้ งานชะงัก ่ การที่วางแผนการซ่อมบํารุงผิดพลาด มักเกิดจากข้ อมูลสถิตที่นํามาประกอบการพิจารณาวางแผนการทํางาน ิ ในโครงการ (Schedule Workload) คลาดเคลื่อน รวมทังขาดการปรับปรุงแผนดังกล่าวให้ เหมาะสมกับ ้ สถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงความต้ องการทางด้ านยุทธการ ขาดการประสานงานอย่างใกล้ ชิดกับหน่วยที่ เกี่ยวข้ อง นอกจากนันการประเมินค่าการงานนอกโครงการ (Unschedule Workload) คลาดเคลื่อนหรื อขาด ้ การคํานึงถึงตลอดจนขาดการควบคุมงานที่ดีในเรื่ องการจัดงานเข้ าทําตามอันดับความเร่งด่วน (Priority) การ กําหนดวันเข้ าทําและวันเสร็จโดยประมาณต้ องเป็ นไปตามแผนที่วางไว้ ซีงเป็ นการปองกันไม่ให้ งานประดังเข้ า ่ ้ มาจนทําให้ ไม่ทนหรื อทอดระยะนานเกินไปจนเกิดการว่างงานขึ ้น ั ๒. การขาดแคลนพัสดุ คําว่า “พัสดุ” ในที่นี ้หมายถึง ชิ ้นอะไหล่ของอาวุธยุทโธปกรณ์ บริภณฑ์ และ/หรื อวัสดุโกลนที่ใช้ ในการ ั ซ่อมสร้ างชิ ้นอะไหล่ รวมทังเครื่ องมือเครื่ องใช้ และอุปกรณ์ตาง ๆ ที่สนับสนุนกิจการซ่อมบํารุง พัสดุเป็ นปั จจัย ้ ่ สําคัญอย่างหนึงที่จะขาดเสียมิได้ ปั ญหาการขาดแคลนพัสดุหรื อรอรับพัสดุนี ้เป็ นปั ญหาที่เรื อรังมานาน ่ ้ นับตังแต่เริ่มต้ องใช้ พสดุที่ผลิตจากต่างประเทศซึงก็ได้ มีการแก้ ปัญหาได้ บ้างเล็กน้ อย โดยการใช้ วสดุใน ้ ั ่ ั ประเทศที่มีคณภาพใกล้ เคียงกันมาทดแทน อย่างไรก็ตามในปั จจุบนปั ญหาเรื่ องนี ้ก็ยงไม่หมดสิ ้นไป โดยเฉพาะ ุ ั ั พัสดุสายช่างอากาศ ปรากฎว่ามีการรอพัสดุเร่งด่วนอยูเ่ สมอจากการวิเคราะห์ข้อมูลของศูนย์สงกําลังบํารุง กบ. ่ ทอ.ก็พอสรุปได้ วาการขาดแคลนหรื อการรอพัสดุนี ้ สาเหตุมาจากหน่วยเกี่ยวข้ องปฏิบตหน้ าที่ไม่สมบูรณ์ ซึง ่ ัิ ่ ได้ แก่การวางแผนการซ่อมบํารุงและการดําเนินการเกี่ยวกับการพัสดุไม่ดี ๒.๑ การวางแผนซ่อมบํารุง ตามที่ได้ กล่าวแล้ วในข้ อ ๑ ว่า การขาดแผนการซ่อมบํารุงที่ดีจะ ทําให้ เกิดปั ญหากระทบกระเทือนต่อขุมกําลัง ซึงมีเรื่ องพัสดุรวมอยูด้วยเป็ นเหตุให้ เกิดการขาดแคลนที่เตรี ยมไว้ ่ ่ ใช้ ในแผนการซ่อมหลัก (Master Repair Scheaule) ซึงได้ แก่พสดุที่จะต้ องเตรี ยมจัดหาตามบัญชีรายการพัสดุ ่ ั ที่ต้องการ (Material Requirement List) หรื อ MRL การคลาดเคลื่อนของพัสดุตามบัญชีที่เตรี ยมการไว้ นี ้สรุป ได้ วา เกิดขึ ้นได้ หลายกรณี เริ่ มตังแต่การประเมินรายการพัสดุที่ต้องการผิดพลาด ไม่ได้ พสดุตามเวลาที่กําหนด ่ ้ ั หรื อไม่ได้ ครบรวมทังพัสดุที่ได้ มาแล้ วต้ องถูกนําไปใช้ งานอื่น ๆ เป็ นต้ น ้ ๒.๒ การดําเนินการเกี่ยวกับการพัสดุ ตามที่ได้ กําหนดไว้ ในระเบียบกองทัพอากาศว่าด้ วย พัสดุ พ.ศ.๒๕๓๗ ตลอดจนคูมือว่าด้ วยการพัสดุ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึงได้ รับการปรับปรุงแก้ ไขไปบ้ างแล้ วเพื่อให้ ่ ่ เหมาะกับสภาวะการณ์ปัจจุบน ยังไม่บรรลุผลตามเปาหมายกล่าวคือ การจัดหาไม่ได้ ตามกําหนดเวลาที่ ั ้ ต้ องการ ระยะเวลาการจัดหานานงบประมาณน้ อย ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตามการปฏิบตงานตามหน้ าที่ของหน่วย ัิ ปฏิบติ หากกวดขันให้ เคร่งครัดกว่าที่เป็ นอยูรวมทังการเร่งรัดและติดตามใบเบิกตามระยะเวลาแล้ ว การขาด ั ่ ้ แคลนหรื อรอพัสดุก็จะลดน้ อยลง ที่สําคัญได้ แก่การเบิกจ่ายล่าช้ า และไม่มีพสดุดคงคลัง ั ี ๒.๒.๑ การเบิกจ่ายล่าช้ า ทังนี ้เกี่ยวกับกรรมวิธีดําเนินการเพื่อให้ ได้ มาตามความ ้ ต้ องการในช่วงเวลาที่ดาหนดตามอันดับความเร่งด่วน (Priority) เช่น ทางเดินของใบเบิก การสังจ่ายล่าช้ า ํ ่ รวมทังการนําพัสดออกจากคลังที่เก็บรักษาไม่พร้ อมที่จะจ่ายให้ ได้ ทนทีเพราะขาดการเตรี ยมบรรจุหีบห่อให้ ้ ุ ั เรี ยบร้ อย ตลอดจนการขนส่งให้ หน่วยผู้ใช้ ซงจะได้ กล่าวต่อไป ึ่ ๒.๒.๒ ไม่มีพสดุดีคงคลัง ปั ญหานี ้ก็เป็ นสิงที่จะต้ องได้ รับการแก้ ไขเป็ นอย่างมาก การ ั ่ ที่ไม่มีพสดุดีคงคลัง ถ้ าไม่ใช่เหตุสดวิสย เช่น เป็ นพัสดุที่ไม่เคยปรากฏมีการชํารุดมาก่อน (New Item) ก็แสดง ั ุ ั ว่าเจ้ าหน้ าที่บกพร่องขาดการเอาใจใส่เรื่ องการรักษาระดับอัตรสะสม และจุดเบิกให้ เหมาะสม ตลอดจนขาด การตรวจสํารวจ (Invertiry) ทังทางบัญชีคมและพัสดุที่มีอยูให้ ตรงกัน แต่ก็มีเรื่ องที่น่าคิดอยูเ่ หมือนกันสําหรับ ้ ุ ่ การจัดหาโดยวิธีสงพัสดุชํารุดที่พอจะซ่อมให้ กลับสภาพดีดงเดิมได้ เข้ าซ่อม ซึงบางครังคลังใหญ่ไม่ไม่พสดุ ่ ั ่ ้ ั ชํารุดดังกล่าวอยูคงคลัง เนื่องจากหน่วยผู้ใช้ ไม่สงคืนคลังใหญ่ตามสายงาน พัสดุจงขาดการหมุนเวียน ่ ่ ึ เรื่ องการขาดพัสดุหรื อรอพัสดุตามข้ อ ๔.๒.๒ หากหน่วยปฏิบตการซ่อมบํารุงได้ กระทําอย่างดีที่สดแล้ วแต่ก็ยงมี ัิ ุ ั การรอพัสดุโดยเฉพาะพัสดุเร่งด่วน (MNCS = Not Mission Capable Supply) อยูอีกก็ควรส่งคําขอการ ่ สนับสนุนไปที่ศนย์สงกําลังบํารุง กบ.ทอ.ดอนเมือง ทางเครื่ องมือสื่อสารของหน่วย เช่น โทรศัพท์ โทรพิมพ์ วิทยุ ู ่ พร้ อมด้ วยรายละเอียดที่จําเป็ นต่อการประสานงานได้ แก่หมายเลขพัสดุ (National Stock Number) หรื อ หมายเลขชิ ้นส่วน (Part Number) ซึงชิ ้นส่วน จํานวน วันต้ องการใช้ กบอาวุธยุทโธปกรณ์หรื อบริภณฑ์อะไร เช่น ่ ั ั อากาศยาน หมายเลข ….. ทอ.รวมทังเลขที่ใบเบิกและหน่วยรับปลายทาง ทางศูนย์สงกําลังบํารุง กบทอ.จะ ้ ่ ดําเนินการตามคําขอการสนับสนุนและจะแจ้ งผลให้ หน่วยทราบโดยเร็วที่สด ุ ๓. การขาดช่ างชํานาญงาน เป็ นปั ญหาที่ประสบอยูทวไปเกือบทุกหน่วยงานซ่อมบํารุงเพราะความเจริ ญในด้ านกิจการทหารและ ่ ั่ พลเรื อนในปั จจุบนก้ าวหน้ าไปทังสองทาง ความต้ องการช่างชํานาญงานจึงมีมากขึ ้น เพราะบุคคลประเภทนี ้ ั ้ เป็ นหลักในงานซ่อมบํารุง แต่งานทางด้ านพลเรื อนมีรายได้ สงกว่าทหาร นอกจากนันทางทหารก็มีอตรา ู ้ ั ตําแหน่งจํากัด การเลื่อนตําแหน่งก็ยากกว่าทางด้ านพลเรื อน ฉะนัน ช่างชํานาญงานจริง ๆ จึงมักจะลาออกจาก ้ กองทัพอากาศไปเรื่ อย ๆ ตามแต่โอกาสจะอํานวยให้ และนําความรู้ความชํานาญที่ได้ รับจากกองทัพอากาศไป ใช้ ในโรงงานเอกชน ซึงเป็ นการสูญเสียช่างชํานาญงานไปอย่างน่าเสียดาย การฝึ กคนขึ ้นมาจนถึงขันชํานาญ ่ ้ จริงก็ต้องใช้ เวลานาน งานซ่อมบํารุงจะต้ องประสบอุปสรรคหากไม่ได้ เตรี ยมการแก้ ปัญหาในเรื่ องนี ้ ๔. ขวัญ ขวัญหรื อกําลังใจในการทํางานซ่อมเป็ นสิงสําคัญเหนือสิงอื่นใดปั จจัยนี ้ ได้ ทําให้ งานล้ มเหลวหรื อล่าช้ า ่ ่ ไปเป็ นอันมาก เพราะเป็ นสิงที่มองไม่เห็นและรู้ได้ ยาก เครื่ องชี ้ค่ากําลังใจ ได้ แก่ สถิตการลากิจ ป่ วย ขาด ่ ิ ราชการ การถูกลงทัณฑ์ การขอโยกย้ ายงาน การหลบงาน และอัตราการผลิตตํ่ากว่ามาตรฐานทังคุณภาพและ ้ ปริ มาณ หรื ออย่างใดอย่างหนึง การแก้ ไขในเรื่ องนี ้ให้ คืนดีกระทําได้ ช้ามาก จึงเป็ นหน้ าที่ของผู้บงคับบัญชา ่ ั โดยตรงที่จะต้ องปองกัน อย่าให้ เกิดการเสียขวัญภายในหน่วยซ่อมบํารุงที่มีอยูในความรับผิดชอบ และต้ องมี ้ ่ การบํารุงขวัญให้ เกิดขวัญดีอยูเ่ สมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่ องการให้ ความยุตธรรมแก้ ผ้ ใต้ บงคับบัญชา ิ ู ั ตลอดจนส่งเสริ มความก้ าวหน้ าแก้ ผ้ กระทําความดี ู ๕. การขนส่ ง เป็ นปั จจัยที่สาคัญอีกอย่างหนึงที่มีผลต่องานซ่อมบํารุง การขนส่งชิ ้นส่วนอุปกรณ์ ภายในหน่วย ํ ่ ตามลําดับชันการทํางาน และหรื อการขนส่งพัสดุระหว่างหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพอากาศ เช่น จากคลังใหญ่ ้ จนถึงหน่วยผู้ใช้ ที่หางไกล หากกระทําอย่างล่าช้ าไม่เป็ นไปตามกําหนด ก็จะทําให้ งานชะงัก และไม่เสร็ จตาม ่ กําหนดที่ได้ ประมาณการไว้ ซึงจะเป็ นสาเหตุหนึงที่ทําให้ แผนการกําหนดงานเข้ าทําต้ องเลื่อนกําหนดเวลา ่ ่ ออกไปตามลําดับ การขนส่งภายในหน่วยเป็ นหน้ าที่ของนายทหารซ่อมบํารุงที่รับผิดชอบดําเนินการอย่าง ใกล้ ชิด งานจึงจะดําเนินไปอย่างสมํ่าเสมอ ส่วนการขนส่งภายนอกหน่วยเป็ นหน้ าที่ของกรมขนส่งทหารอากาศ รับผิดชอบหรื อตามแต่จะตกลงกัน สําหรับกรณีการขนส่งพัสดุจากคลังใหญ่ถงหน่วยผู้ใช้ ในปั จจุบน ได้ มีการ ึ ั แบ่งมอบหน้ าที่กนดังนี ้ ั ๕.๑ คลังใหญ่ รับผิดชอบดําเนินการขนส่งพัสดุให้ หน่วยผู้ใช้ ฐานบินดอนเมือง สําหรับคลังใหญ่พสดุ ั ช่างอากาศยาน จัดรถบรรทุกเพื่อการนี ้วันละ ๒ เที่ยว และจัดรถจิ๊บ ๑ คัน สํารองไว้ ในกรณีขนส่งพัสดุเร่งด่วน เป็ นพิเศษ ๕.๒ กรมขนส่งทหารอากาศ รับผิดชอบดําเนินการขนส่งพัสดุจากคลังใหญ่ให้ หน่วยหลายทางได้ แก่ คลังฐานบินหรื อคลังหน่วยแล้ วแต่กรณี ซึงดําเนินการขนส่งทางอากาศและหรื อทางบก ตามอันดับความ ่ เร่งด่วน ตามที่ได้ ระบุไว้ ในระเบียบกองทัพอากาศว่าด้ วยการขนส่ง พ.ศ.๒๕๐๘ ความรับผิดชอบในการขนส่งดังที่ได้ กล่าวมาแล้ วนัน รวมไปถึงการขนส่งพัสดุที่หน่วยต่าง ๆ ส่งคืนคลังใหญ่ ้ และพัสดุที่สงมาจากต่างประเทศด้ วย อนึง เพื่อให้ การขนส่งพัสดุเร่งด่วนอันดับ ๐๒ และหรื อนําชุดซ่อมบํารุง ่ ่ เคลื่อนที่ที่จะต้ องปฏิบตงานเร่งด่วน ดําเนินไปอย่างรวดเร็วทันเวลาที่ต้องการ ซึงไม่อาจรอการขนส่งตามสาย ัิ ่ งานปกติได้ แล้ ว ให้ สงคําขอรับการสนับสนุนตรงไปที่ศนย์สงกําลังบํารุง ศกบ.บนอ.พิจารณาความเหมาะสม ่ ู ่ และเห็นชอบด้ วยแล้ ว ก็จะดําเนินการให้ ทนที โดยใช้ ยานพาหนะตามที่ได้ รับอนุมตในหลักการจากผู้บญชาการ ั ัิ ั ทหารอากาศ ท้ ายหนังสือ กบ.ทอ.ที่ กห ๐๓๗๙/๖๘๐๗ ลง ๒๐ พ.ย.๑๒ เรื่ อง การขออนุมตใช้ พาหนะ ัิ สนับสนุนการส่งกําลังบํารุง ๖. การแผนแบบสร้ างยุทธภัณฑ์ ไม่ ดี ในการแผนแบบสร้ างอากาศยานหรื อยุทธภัณฑ์อื่นเข้ ามาใหม่ ผู้แทนแบบมักจะมุงให้ อากาศยานหรื อ ่ ยุทธภัณฑ์นนมีสมรรถนะดีทกประการแต่ขาดการคํานึงถึงในแง่การซ่อมบํารุงที่จะต้ องทําในเวลานําออกใช้ งาน ั้ ุ ฉะนัน จึงทําให้ เกิดมีปัญหายุงยากในการซ่อมบํารุงมาก เช่น การถอดเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชํารุดซึงบางแห่งกระทํา ้ ่ ่ ได้ ยากต้ องใช้ เวลา แรงงาน และเครื่ องมือพิเศษ เป็ นต้ น ซึงเป็ นการลดปริมาณผลผลิตลงเมื่อเทียบกับ ่ ยุทธภัณฑ์อื่นที่มีสมรรถนะใกล้ เคียง ๗. อาวุธยุทโธปกรณ์ ประเภทเดียวกันแต่ มีหลายแบบ ปั จจัยนี ้ก่อให้ เกิดปั ญหาทางด้ านเทคนิคความชํานาญในการซ่อมบํารุง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้ านการ พัสดุ เช่น ชิ ้นอะไหล่ เป็ นต้ น ส่วนมากมักจะใช้ ทดแทนกันไม่ได้ เป็ นการกระทบกระเทือนการจัดดําเนินงานซ่อม บํารุง และสิ ้นเปลืองงบประมาณเป็ นอย่างมาก ตามที่ได้ กล่าวมาแล้ ว เป็ นปั จจัยมูลฐานที่มกจะเกิดขึ ้นแล้ ว ั ส่งผลกระทบกระเทือนการซ่อมบํารุงส่วนปั จจัยอื่น ๆ ที่เป็ นองค์ประกอบนัน ก็ได้ แก่สถานที่ตงหน่วย และสภาพ ้ ั้ ลมฟาอากาศ เป็ นต้ น ้ บทสรุ ป งานซ่อมบํารุงอาวุธยุทโธปกรณ์ตาง ๆ ของกองทัพอากาศ เป็ นงานที่เกี่ยวกับงานทางเทคนิค จึง ่ ต้ องการช่างซ่อมบํารุงที่มีความรู้ความชํานาญ และความละเอียด รอบคอบเป็ นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อากาศยานซึงเป็ นอาวุธของกองทัพอากาศ ทังนี ้เพื่อให้ ตรงประสิทธิภาพและปลอดภัยในการบิน นายทหารส่ง ่ ้ กําลังบํารุงทุกระดับชันการซ่อมบํารุง จะต้ องปฏิบตหน้ าที่ที่ได้ รับมอบหมายอย่างดีที่สด เพื่อให้ ได้ ผลผลิตตาม ้ ัิ ุ ความต้ องการทางด้ านยุทธการทันเวลา โดยอาศัยหลักการซ่อมบํารุงเป็ นเกณฑ์การพิจารณามีนโยบาย กองทัพอากาศเป็ นแนวทางปฏิบติ และมีการบริหารงานที่ทรงประสิทธิภาพ เป็ นเครื่ องมือในการปฏิบตการซ่อม ั ัิ บํารุงให้ บรรลุเปาหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ้ ----------------------------------------


Comments

Copyright © 2024 UPDOCS Inc.